“ส.ส.วีระกร ประธาน กมธ. CPTPP สรุปรายงานระบุมีผลกระทบเกษตรกร แต่หากไม่เข้าร่วมจะมีผลต่อ FTA ของไทย
นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 2
//////
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 2 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบ จากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) จากกรณีที่รัฐบาลมีความสนใจที่จะเข้าร่วมความตกลง CPTPP ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมประเด็นทางการค้าหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาประธาน กกร.ได้ให้สัมภาษณ์ระบุว่า หากประเทศไทยไม่เข้าร่วมความตกลงต่าง ๆ ปัจจุบันนี้เรามี FTA กับประเทศต่าง ๆ น้อยมาก และยังระบุด้วยว่าหากไม่เข้า CPTPP อาจเสียโอกาสทางการค้าโลกได้นั้น จะเห็นว่าไทยมี FTA กับ 18 ประเทศทั่วโลก ภาคเอกชนอยากเห็นการทำ FTA ของไทยก้าวหน้าและเพิ่มประเทศที่ทำ FTA ให้มากขึ้น แต่ในภาคประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรห่วงเรื่องการใช้พันธุ์พืช ซึ่งการเข้าสู่ CPTPP นั้นจะต้องเป็นสมาชิกของอนุสัญญายูป๊อปโดยอัตโนมัติที่ดูแลนักปรับปรุงพันธุ์รายใหม่ เมื่อมีสิ่งที่เป็นพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นในโลกก็จะมีการปกป้อง สำหรับประเทศไทยจะเห็นได้ว่างานวิจัยของกรมการข้าวงบประมาณที่ได้รับถดถอยลงทุกปี โดยในปี 2560 มีงบประมาณทำวิจัยเรื่องข้าวประมาณ 234 ล้านบาท แต่ในปีที่ผ่านมาลดลงเรื่อย ๆ เหลือ 129 ล้านบาทในปีปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าในส่วนนี้รัฐบาลแม้อยากเข้า CPTPP แต่ก็ยังไม่ได้เตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทย แม้จะเข้าใจว่าการต้องทำ FTA กับประเทศต่าง ๆ นั้นอาจมีผลกระทบในหลายด้านนอกจากด้านเกษตร แม้กระทั่งจำนวนนักวิจัยปัจจุบันทั้งกรมการข้าวมีอยู่ 38 คน ข้อกังวลของเกษตรกรคือหากเข้าร่วมวันนี้ไทยมีความพร้อมหรือยัง
.
นอกจากนี้ในด้านยาและการสาธารณสุขนั้น การใช้สิทธิบัตรยา การเปิดตลาดบริการและการลงทุน การคุ้มครองด้านสิทธิ ทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น การใช้กลไกระงับข้อพิพาทระหว่างนักลงทุนกับรัฐ การเปิดตลาดการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งต้องเปิดเสรีให้กับทุกประเทศที่เป็นสมาชิก CPTPP อยู่นั้น การให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการซื้อขายสินค้าและบริการเชิงพาณิชย์ การให้สิทธิแรงงานต่างด้าวรวมตัวกันจัดตั้งสหภาพ จึงมีการเสนอญัตติด่วนเพื่อพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลง CPTPP มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวรวมระยะเวลาศึกษา 120 วัน มีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พิจารณาศึกษาผลกระทบด้านการเกษตรและพันธุ์พืช พิจารณาศึกษาผลกระทบด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ศึกษาผลกระทบด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญยังได้ศึกษาเรื่องอื่น ๆ อีกหลายด้านพร้อมทั้งจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เพื่อพิจารณานำรายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญเสนอคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป
#ประชุมสภา #สสวีระกร #กทม #สสพปชร #พลังประชารัฐ
More Stories
สำนักข่าว Today News ลุยช่องทางนิวมีเดีย
บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หายห่วง!เสริมรถ 5 เส้นทางทับซ้อน เพิ่มรถ-เพิ่มรอบ พร้อมให้บริการทันที
สลากดิจิทัล งวด 17 มกราคม 2566 จำหน่ายหมดแล้ว!