สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ได้จัดงานเสวนาในโครงการส่งเสริมขีดความสามารถและเครือข่ายด้านเศรษฐกิจ BCG ไทย – สิงคโปร์ (Seminar on Opportunities for Cooperation in BCG Business with Singapore)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ได้จัดงานเสวนาในโครงการส่งเสริมขีดความสามารถและเครือข่ายด้านเศรษฐกิจ BCG ไทย – สิงคโปร์ (Seminar on Opportunities for Cooperation in BCG Business with Singapore) ในวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 09.30-12.00 น. ที่ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ ถ. ศรีอยุธยา จัดโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
งานเสวนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความยั่งยืน รวมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้และส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือด้าน BCG ระหว่างประเทศไทยกับสิงคโปร์ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและภาคเอกชนของสิงคโปร์เดินทางมาประเทศไทย เพื่อนําเสนอข้อมูลนโยบาย Green Economy ด้านความยั่งยืนและคาร์บอนเครดิตของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานเสวนาทราบถึงโอกาสทางธุรกิจและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างไทยกับสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในตลาดการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มองเห็นโอกาสจากการที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญต่อประเด็นสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างมาก อันเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านภูมิประเทศ เช่น การขาดแคลนแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และการมีพลังงานทางเลือกที่จำกัด ดังนั้น สิงคโปร์จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความร่วมมือเพื่อเศรษฐกิจสีเขียวที่มีความยั่งยืน
ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดทำนโยบาย Singapore Green Plan 2030 เป็นวาระแห่งชาติของสิงคโปร์มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการพัฒนาพื้นที่สีเขียวและสิ่งแวดล้อมของสิงคโปร์ในระยะเวลา 10 ปี (ปี 2564 – 2573) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Bio-Circular-Green (BCG) Economy ของประเทศไทย และเพื่อการบรรลุเป้าหมายตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ค.ศ. 2030 (SDG) และความตกลงปารีส ทั้งนี้ สิงคโปร์ตั้งเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 โดยกำหนดกฎระเบียบเพื่อการปรับให้ธุรกิจสิงคโปร์ให้ส่งเสริมความยั่งยืน มุ่งลงทุนในเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เร่งสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านความยั่งยืน และสร้างสังคมที่นิยมกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนมากขึ้น
โดย มีนโยบายเชิงเศรษฐกิจสำคัญที่น่าเรียนรู้ของสิงคโปร์ อาทิ
(1) สิงคโปร์เป็นประเทศแรกที่เริ่มการจัดเก็บภาษีคาร์บอนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2562 ในอัตรา 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (S$5/tCO2e) และในปีนี้ได้ปรับเพิ่มอย่างก้าวกระโดดเป็น 25 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นอีก
(2) การพัฒนาศูนย์กลางซื้อขายคาร์บอนเครดิตระดับโลกในลักษณะตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้าน Circular Economy และ Green Economy อย่างมาก เนื่องจากบูรณาการความร่วมมือเพื่อสนับสนุนความเชื่อมโยงให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชน ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงต้องการที่จะนำข้อมูลความสำเร็จเหล่านี้มาแบ่งปันเพื่อส่งเสริม ขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในด้านเศรษฐกิจ BCG นำไปปรับใช้ประโยชน์ และปรับตัวทางธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อตลาด BCG ของโลก โดยเฉพาะด้านคาร์บอนเครดิต
สำหรับกิจกรรมกรเสวนา ในครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละท่านจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยจากหน่วยงาน ผู้กำหนดนโยบายและผู้ปฏิบัติซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายด้านความยั่งยืนและคาร์บอนเครดิตของสิงคโปร์ และสามารถต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทยกับสิงคโปร์ในเรื่องนี้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในตลาดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่อาจมีโอกาสพัฒนาเป็นการซื้อขายลักษณะเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต///
More Stories
สมาคมสื่อฯ ตรวจสอบ ตู้คีบตุ๊กตา หน้า ร้านสะดวก ซื้อชื่อดัง พบ ไม่ผิดกฎหมาย หลังผู้ปกครอง สงสัย
“ วิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี IRPCT & เจริญชัยฯ (อ.กรอ.อศ) ”ร่วมเสริมสร้างสื่อการเรียนการสอน การบริหารจัดการพลังงานและการอนุรักษ์พลังงาน แบบ IoT Real Time น้อมรับนโยบายการทรวงศึกษาธิการ “เรียนดี มีความสุข”
สำนักพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จัดงาน”เรียนรู้ สร้างโอกาส เชื่อมโยงการศึกษากับอุตสาหกรรม”